ภาษาหนู ครูงง
วันก่อนฉันไปดูการสอนของนักศึกษาฝึกสอนที่เรียกกันว่าไปนิเทศการสอนนั่นแหละช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีการเลือกตั้ง
ส.ส.
เข้าเพื่อสภาฯ
และเพื่อเป็นการสนองนโยบายทางโรงเรียนจึงมีนโยบายใช้เด็กเล็ก
ให้ไปช่วยกันลากผู้ใหญ่ที่บ้านให้ออกมาใช้สิทธิและใช้เสียงเลือกตั้ง
หลังจากที่คุณครูฝึกสอนได้อธิบายถึงเรื่องของการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยให้นักเรียนรุ่น
ป.1 ได้ฟังจนเป็นที่เรียบร้อย ก็มาถึงขั้นการประเมินผลการเรียนการสอน
เพื่อเป็นการสอบถามความเข้าใจ
คุณครูจึงให้นักเรียนออกมาเล่าประสบการณ์ที่เคยรู้มาบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้เพื่อน
ๆฟัง
นักเรียนตัวน้อยคนหนึ่งลุกขึ้นเล่าอย่างผู้มีประสบการณ์ว่า
เคยเห็นคุณลุงที่ข้างบ้านเข้ามาคุยกับคุณพ่อคุณแม่และขอเสียง
"แล้วคุณพ่อคุณแม่ของเธอท่านว่าอย่างไรบ้าง"
คุณครูเริ่มซัก "คุณพ่อคุณแม่ก็บอกคุณลุงว่าจะให้
แต่ผมว่าคุณพ่อคงให้ไม่ได้หรอกครับเพราะท่านไม่ค่อยมีเสียง
ขืนให้ไปคงไม่มีใช้แน่เลยแต่คุณแม่ของผมซิครับท่านเสียงดัง
ให้ไปเสียบ้างก็คงจะดี
แต่
เอ
ผมไม่ทราบว่าคุณลุงท่านจะเอาเสียงไปอีกทำไม
เพราะขนาดผมนั่งแอบฟังอยู่ในห้องนอนชั้นบน
ผมยังได้ยินเสียงของท่านดังชัดเจนดี"
จากนั้นก็ตะเบ็งเสียงแข่งกันพูด เฮ้อ
ถ้าเสียงแบบนี้ให้กันได้ก็อยากให้ท่านว่าที่ ส.ส. มาขอเสียงเจ้าตัวน้อย ๆ
ไปเสียบ้างก็น่าจะดี
เพื่อนของฉันคนหนึ่งที่โรงเรียนเล่าให้ฟังว่า ลูกสาวคนเล็กของเธอเคยชี้ให้ดูป้ายริมทางที่เขียนว่า
ปะยาง 24 ชั่วโมง
พร้อมทั้งมีความสงสัยว่ายางรถนั้นมันปะยากนักหรือถึงต้องใช้เวลานานตั้ง 24
ชั่วโมงแน่ะ น่าจะหาวิธีที่จะใช้เวลาให้น้อยลงหน่อยก็จะดี
ความคิดของเด็ก
ๆ
นั้นเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่หลายคนอาจจะนึกไม่ถึง
ดังนั้นเมื่อเด็กพบเห็นหรือได้ยินอะไร
เด็กอาจจะเก็บเอาสิ่งเหล่านี้ไปคิด และมองหาผู้ที่เขาพอจะพึ่งได้
ซึ่งอาจจะเป็นพ่อแม่และคนในครอบครัว และที่จะละเว้นเสียมิำได้ก็น่าจะเป็นคุณครูขาและคุณครูครับของพวกเขา
ๆนั่นเอง
ด้วยเหตุนี้เอง
ฉันจึงมักจะมีลูกศิษย์ตัวเล็กๆเดินห้อมล้อมพร้อมแย่งกันถามไม่เว้นแต่ละวัน
ด้วยคำถามที่บางครั้งฉันเองก็นึกไม่ถึงเช่นกัน เช่น
-
"ผ้าอนามัยทำไมเอามาเช็ดหน้าไม่ได้คะ
ก็มันเป็นผ้าที่สะอาดไม่ใช่
หรือคะ แต่คุณแม่บอกว่ามันน่าเกลียด"
-
"คำว่าสุวรรณมาลี
แปลว่า
ดอกทอง แล้วทำไมถึงพูดไม่ได้คะ ดอกก็ไม่ใช่
คำหยาบ ทองก็เป็นของดี แล้วทำไมพูดทีไร โดนตีทุกที ฮือ ฮือ"
-
"งามหน้า
ไม่ได้แปลว่า งามที่หน้าหรือคะ แล้วมันแปลว่า น่าอาย ได้อย่างไรคะ หนูงง "
-
" คุณครูขา
ถ้างดแปลว่า ไม่ งดงามก็ต้องแปลว่า ไม่งามซิคะ"
-
"การย่องเบา ทำไมถึงไม่ดีคะ คุณครูชอบให้เดินดัง ๆ หรือไงคะ"
-
"ทำไม
คุณพ่อผมต้องโกรธเพื่อนที่มา พูดว่าจะ สอนมวยให้ด้วยล่ะ"
-
"วันนั้นคุณครูให้แบ่งกลุ่มทำรายงานเพื่อออกมารายงานหน้าชั้น
พวกหนูขอสมรู้ร่วมคิดกันทั้งหมดคุณครูก็ไม่ยอม หนูก็เลยให้เพื่อนทำคนเดียว
ครูก็ดุหาว่าไม่ช่วยเพื่อน เอาใจคุณครูยากจริง"
-
"วันก่อนคุณครูบอกกับหนูว่า
วาดรูปไม่เสร็จก็ให้ทำเสียให้เสร็จ พอหนูทำรูปเสีย
ทำไมคุณครูถึงโกรธนักล่ะคะ "
นี่เป็นแค่ตัวอย่างคำถามที่ลูกศิษย์ตัวน้อยเขาสรรหามาถาม
และฉันผู้ซึ่งเป็นครูก็ต้องสรรค์หาคำตอบพร้อมวิธีการตอบ
มาตอบให้ลูกศิษย์เข้าใจให้สมวัยของเขาให้ได้
และแล้วฉันก็เกิดความกลัวแว๊บเข้ามาในใจว่า
ขออย่าให้มีใครมาเอ่ยปากชมฉันว่ายังงามเหมือนดังว่าเป็นนางอมตเทวี
หรือ
สาวสองพันปีเลย
เพราะฉันได้พบว่ามีผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้ายได้แปลความหมายของคำชมที่ว่านี้ว่า
อีแก่หนังเหนียวไปเสียแล้วน่ะซี เดี๋ยวนี้ทุกคนต้องระวังตัวจะได้ไม่มีใครมาแอบใช้ภาษาว่าเราให้เจ็บใจ
|