ดร.สุภัททา ปิณฑะแพทย์

Dr.Supatta Pinthapataya

email: supattapin@yahoo.com







ภาษาหนู ครูงง

วันก่อนฉันไปดูการสอนของนักศึกษาฝึกสอนที่เรียกกันว่าไปนิเทศการสอนนั่นแหละช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีการเลือกตั้ง  ส.ส.  เข้าเพื่อสภาฯ  และเพื่อเป็นการสนองนโยบายทางโรงเรียนจึงมีนโยบายใช้เด็กเล็ก  ให้ไปช่วยกันลากผู้ใหญ่ที่บ้านให้ออกมาใช้สิทธิและใช้เสียงเลือกตั้ง หลังจากที่คุณครูฝึกสอนได้อธิบายถึงเรื่องของการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยให้นักเรียนรุ่น ป.1 ได้ฟังจนเป็นที่เรียบร้อย ก็มาถึงขั้นการประเมินผลการเรียนการสอน เพื่อเป็นการสอบถามความเข้าใจ     คุณครูจึงให้นักเรียนออกมาเล่าประสบการณ์ที่เคยรู้มาบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้เพื่อน  ๆฟัง  นักเรียนตัวน้อยคนหนึ่งลุกขึ้นเล่าอย่างผู้มีประสบการณ์ว่า เคยเห็นคุณลุงที่ข้างบ้านเข้ามาคุยกับคุณพ่อคุณแม่และขอเสียง "แล้วคุณพ่อคุณแม่ของเธอท่านว่าอย่างไรบ้าง"

คุณครูเริ่มซัก  "คุณพ่อคุณแม่ก็บอกคุณลุงว่าจะให้ แต่ผมว่าคุณพ่อคงให้ไม่ได้หรอกครับเพราะท่านไม่ค่อยมีเสียง   ขืนให้ไปคงไม่มีใช้แน่เลยแต่คุณแม่ของผมซิครับท่านเสียงดัง  ให้ไปเสียบ้างก็คงจะดี  แต่  เอ  ผมไม่ทราบว่าคุณลุงท่านจะเอาเสียงไปอีกทำไม เพราะขนาดผมนั่งแอบฟังอยู่ในห้องนอนชั้นบน  ผมยังได้ยินเสียงของท่านดังชัดเจนดี"  จากนั้นก็ตะเบ็งเสียงแข่งกันพูด เฮ้อ ถ้าเสียงแบบนี้ให้กันได้ก็อยากให้ท่านว่าที่ ส.ส. มาขอเสียงเจ้าตัวน้อย ๆ ไปเสียบ้างก็น่าจะดี

เพื่อนของฉันคนหนึ่งที่โรงเรียนเล่าให้ฟังว่า ลูกสาวคนเล็กของเธอเคยชี้ให้ดูป้ายริมทางที่เขียนว่า ปะยาง 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งมีความสงสัยว่ายางรถนั้นมันปะยากนักหรือถึงต้องใช้เวลานานตั้ง 24 ชั่วโมงแน่ะ น่าจะหาวิธีที่จะใช้เวลาให้น้อยลงหน่อยก็จะดี             

ความคิดของเด็ก    นั้นเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่หลายคนอาจจะนึกไม่ถึง ดังนั้นเมื่อเด็กพบเห็นหรือได้ยินอะไร  เด็กอาจจะเก็บเอาสิ่งเหล่านี้ไปคิด และมองหาผู้ที่เขาพอจะพึ่งได้ ซึ่งอาจจะเป็นพ่อแม่และคนในครอบครัว และที่จะละเว้นเสียมิำได้ก็น่าจะเป็นคุณครูขาและคุณครูครับของพวกเขา  ๆนั่นเอง    ด้วยเหตุนี้เอง ฉันจึงมักจะมีลูกศิษย์ตัวเล็กๆเดินห้อมล้อมพร้อมแย่งกันถามไม่เว้นแต่ละวัน ด้วยคำถามที่บางครั้งฉันเองก็นึกไม่ถึงเช่นกัน เช่น

  • "ผ้าอนามัยทำไมเอามาเช็ดหน้าไม่ได้คะ   ก็มันเป็นผ้าที่สะอาดไม่ใช่ หรือคะ แต่คุณแม่บอกว่ามันน่าเกลียด" 

  • "คำว่าสุวรรณมาลี  แปลว่า  ดอกทอง แล้วทำไมถึงพูดไม่ได้คะ ดอกก็ไม่ใช่ คำหยาบ ทองก็เป็นของดี แล้วทำไมพูดทีไร โดนตีทุกที ฮือ ฮือ"

  • "งามหน้า ไม่ได้แปลว่า งามที่หน้าหรือคะ แล้วมันแปลว่า น่าอาย ได้อย่างไรคะ หนูงง "

  • " คุณครูขา ถ้างดแปลว่า ไม่ งดงามก็ต้องแปลว่า ไม่งามซิคะ"

  • "การย่องเบา ทำไมถึงไม่ดีคะ คุณครูชอบให้เดินดัง ๆ หรือไงคะ"

  • "ทำไม คุณพ่อผมต้องโกรธเพื่อนที่มา พูดว่าจะ สอนมวยให้ด้วยล่ะ"

  • "วันนั้นคุณครูให้แบ่งกลุ่มทำรายงานเพื่อออกมารายงานหน้าชั้น    พวกหนูขอสมรู้ร่วมคิดกันทั้งหมดคุณครูก็ไม่ยอม หนูก็เลยให้เพื่อนทำคนเดียว ครูก็ดุหาว่าไม่ช่วยเพื่อน เอาใจคุณครูยากจริง"

  • "วันก่อนคุณครูบอกกับหนูว่า  วาดรูปไม่เสร็จก็ให้ทำเสียให้เสร็จ พอหนูทำรูปเสีย ทำไมคุณครูถึงโกรธนักล่ะคะ "

นี่เป็นแค่ตัวอย่างคำถามที่ลูกศิษย์ตัวน้อยเขาสรรหามาถาม  และฉันผู้ซึ่งเป็นครูก็ต้องสรรค์หาคำตอบพร้อมวิธีการตอบ  มาตอบให้ลูกศิษย์เข้าใจให้สมวัยของเขาให้ได้   และแล้วฉันก็เกิดความกลัวแว๊บเข้ามาในใจว่า    ขออย่าให้มีใครมาเอ่ยปากชมฉันว่ายังงามเหมือนดังว่าเป็นนางอมตเทวี  หรือ  สาวสองพันปีเลย  เพราะฉันได้พบว่ามีผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้ายได้แปลความหมายของคำชมที่ว่านี้ว่า อีแก่หนังเหนียวไปเสียแล้วน่ะซี เดี๋ยวนี้ทุกคนต้องระวังตัวจะได้ไม่มีใครมาแอบใช้ภาษาว่าเราให้เจ็บใจ               

© Copyright 2010. All rights reserved. Contact: supattapin@yahoo.com