คิดเป็นกิจกรรมจนได้
สมัยหนึ่งที่ต้องลงไปสอนวิชาแนะแนวสำหรับนักเรียนมัธยมปีที่
2
ตารางเรียนที่เขาจัดให้คือเวลา 12.35 น.
การจัดเวลาในการสอนเช่นนี้เกิดความสับสนเหมือนกันสำหรับคนที่ต้องสอนในระดับอุดมศึกษาด้วย
เนื่องจากว่าถ้าบังเอิญมีตารางสอนตอนเช้าก็มักจะยาวไปจนถึงเที่ยง ก็จะมีเวลา
35 นาที
สำหรับการพักเที่ยงเพื่อกินข้าว และเตรียมตัวลงไปสอนต่อ หลายคนอาจจะมองว่า
มีเวลาตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าจะกินข้าวไม่ทันเชียวหรือ กินทันน่ะทันแน่แต่อย่าลืมว่าการรีบกินบวกกับต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อจะเริ่มการสอนวิชาใหม่นั้นมันทำให้เกิดอาการที่เรียกว่าจุกถึงคอหอย
คนไม่โดนไม่รู้ เคยขอร้องให้เลื่อนเวลาให้หน่อยก็ไม่สำเร็จ งานนี้จึงต้องทำใจ
แต่มีวิชาหนึ่งที่มักจะถูกกำหนดให้เรียนตั้งแต่เช้าจนถึงพักเที่ยงในวันเดียวกัน
คือวิชาลูกเสือและอนุกาชาด ถามไปถามมาได้ความว่า
เป็นวิชาที่เด็กมักจะหนีเรียนถ้าเรียนตอนบ่าย เป็นคำตอบที่มีเหตุผล
ดังนั้นถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างก็อย่าหวังว่าจะเจอกันครบจำนวน
วันนี้ก็เช่นกันหลังจากตาลีตาลานกินข้าวล้างปากล้างมือ
รีบหอบเอกสารที่เตรียมไว้แจ้นมาที่ห้องเรียน แต่ก็พบกับห้องที่ว่างเปล่า
สืบสวนได้ความว่าสาเหตุเกิดจากนักเรียนห้องนี้กำลังทดลองทำกิจกรรมการทำอาหารยังชีพด้วยฝืนและถ่านในป่า
บางกลุ่มที่เสร็จแล้วก็ถือโอกาสอยู่เล่นกันเสียงดังเพราะมีบางกลุ่มยังไม่เสร็จ
แต่พอเห็นครูมาตามก็ร้องตะโกนเรียกกันให้เข้าเรียนได้แล้ว
มีนักเรียนผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาบอกว่ากลุ่มของเธอยังหุงข้าวต้มไข่ไม่เสร็จเลยขอเวลาสักหน่อยได้ไหม
คำตอบที่ให้ไปทันที คือ
ไม่ได้เวลาเรียนก็ต้องเป็นเวลาเรียนตามเวลาของวิชานั้น ๆ
พอทุกคนได้ยินคำตอบก็รีบกรูเข้ามาขอร้องพร้อมทั้งบอกเหตุผลต่าง ๆ นานา ว่า
ถ้าข้าวไม่สุกตอนนี้เอามาหุงทีหลังก็จะใช้ไม่ได้เพราะจะอมน้ำ
และถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่มีคนดูเดี๋ยวข้าวก็จะไหม้
ก่อไฟทิ้งไว้เดี๋ยวไหม้โรงเรียน ฯลฯ
มีหลายคนใจดีช่วยขอร้องให้เพื่อนด้วยและเต็มใจให้ครูมาสอนชดเชยตอนเลิกเรียนก็ได้
แต่คำตอบจากครูก็ยัง โนเคทุกคนต้องขึ้นชั้นเรียนเดี๋ยวนี้
ตอนนี้เริ่มมีเสียงดังต่อว่าต่อขาน บางคนรู้สึกโกรธหาว่าครูไม่เข้าใจเลย
ก็ปล่อยให้พูดเรียกร้องกันไปก่อนสักครู่ ทำเป็นไม่สนใจ
นี่คือกิจกรรมการเรียนการสอนที่กำลังจะเริ่มขึ้นเดี๋ยวนี้แล้ว
กิจกรรมการสอนเริ่มต้น
ด้วยการสั่งให้เงียบถ้าคิดจะช่วยเพื่อนและให้นั่งลงล้อมวงหม้อข้าว
เพราะครูจะสอนตรงนี้เพื่อจะได้ทำกิจกรรมไปพร้อม ๆ
กับดูแลข้าวที่ยังหุงไม่เสร็จด้วย อนุญาตให้มีคนดูแลข้าวที่กำลังหุงได้
2
คนให้ไปนั่งอยู่กลางวง คนอื่น ๆ
ให้เขียนเหตุผลที่ดีว่าทำไมจึงต้องขอเวลาครูให้ทำกิจกรรมหุงข้าวต้มไข่ให้เสร็จแล้วค่อยเข้าเรียนตามที่ครูต้องการ
ให้อ่านให้เพื่อนฟังเพื่อขอความคิดเห็นและให้เพื่อน ๆ ช่วยเพิ่มเติมด้วย
จากนั้นก็เริ่มอธิบายให้เด็กคิดตามว่า เหตุการณ์เช่นนี้ สมมุติว่าครูเป็นลูก
แล้วพวกเขาเป็นพ่อแม่
ลูกมักจะเรียกร้องต้องการเวลาจากพ่อแม่โดยไม่คิดถึงเหตุผลใด ๆ
เหมือนที่ครูเรียกร้องต้องการเวลาให้ทุกคนเข้าเรียนโดยไม่ฟังเหตุผลของนักเรียนว่ายังหุงข้าวไม่เสร็จ
ทำให้ข้าวเสียหาย ไม่มีข้าวสวยส่งครูและอดได้คะแนน
การที่นักเรียนขอร้องครูก็จะเหมือนกับที่พ่อแม่ขอร้องให้ลูกเห็นใจว่าขอเวลาหน่อยเพราะงานยังไม่เสร็จถ้าปล่อยค้างไว้ก็จะเสียหาย
ขาดรายได้
อดได้เงินยังมีลูกบางคนคร่ำครวญหาว่าพ่อแม่เอาแต่หาเงินไม่มีเวลาอยู่กับลูกทำให้ขาดความรัก
แล้วก็มักนำไปเปรียบเทียบกับบ้านอื่น ให้ถามว่าหุงข้าวไม่เสร็จก็จะอดได้คะแนน
ถ้าทำงานไม่สำเร็จก็อดได้เงิน เหมือนกันใช่ไหม
ครูถามนักเรียนต่อว่ามีใครที่คิดว่า ตัวเองมีพ่อแม่ที่ไม่รักบ้าง
ทุกคนเงียบกิจกรรมต่อจากนั้นคือ ให้นักเรียนช่วยกันตอบว่า
เงินทองที่พ่อแม่หามาได้ต้องใช้จ่ายอะไรบ้าง
มีใครได้ประโยชน์จากเงินเหล่านั้น
มีใครเสียประโยชน์จากการทำงานเพื่อหาเงินของพ่อแม่บ้าง
อนุญาตให้มีการอภิปรายเป็นแนวทางกันเล็กน้อย
จากนั้นให้ทำการ์ดขอบคุณพ่อแม่ที่ทำงานเพื่อลูกโดยให้ส่งทางไปรษณีย์
พอดีมีเสียงแจ๋ว ๆ ดังแว่วมาอย่างสดชื่นว่า .”ข้าวสุกแล้วค่ะ
ขอบคุณค่ะ” ก็ต้องตอบว่า “You’ re welcome.”
ได้กิจกรรมาโดยไม่รู้ตัว ดีใจจัง
เฮ้อ หมดไปอีกหนึ่งคาบเรียน |