Dr. Supatta Pinthapataya

สัญชาตญาณบอก

เมื่อไม่นานมานี้มีเพลง ๆ หนื่ง เป็นเพลงฮิตติดอันดับที่วัยรุ่นร้องเล่นกันติดปาก เนื้อเพลงที่ผู้แต่งได้ประพันธ์ขึ้นมานั้นมีความหมายที่สะท้อนให้เห็นเรื่องราวของพฤติกรรมที่แสดงออกมาแล้ว ฟ้องว่านั่นคือสัญชาตญาณที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ เช่นเนื้อร้องที่ว่า "คนนี้ซิมาแรง สัญชาตญานบอก" เพราะแสดงออกมาว่าเกิดความพออกพอใจในตัวคน ๆ นั้นที่ดูจะมีอะไรที่ดึงดูดความสนใจ มากกว่าคนอื่น ๆ คนที่มาแรงก็คือคนที่สดุดตาสดุดใจ มองแล้วเกิดความรู้สึกอยากที่จะรัก และอยากที่จะได้มาเป็นครอบครองเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ

พระพุทธเจ้าได้ตรัสว่า มนุษย์เรานั้นจะกระทำพฤติกรรมเพื่อการตอบสนองสัญชาตญาณ สี่ประการคือ กิน นอน สืบพันธุ์ และป้องกันอันตรายเสมอ ไม่ว่าจะด้วยการรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตามสัญชาตญาณบางตัวนั้นสามารถที่จะตอบสนองได้โดยตรงโดยที่ไม่เป็นที่เสื่อมเสียหรือขัดต่อธรรมเนียม วัฒนธรรม ประเพณีอันดีงาม เช่น พฤติกรรมการกิน หรือการนอน เป็นต้น แต่สัญชาตญาณบางประเภท ดังเช่น สัญชาตญาณสืบพันธุ์ เป็นพฤติกรรมที่มนุษย์ต้องพยามยามที่หลีกเลี่ยงไม่ให้แสดงความอยากออกมาจนเป็นที่น่าเกลียดน่าชัง ขัดต่อระเบียบประเพณีของสังคม ในบางประเทศถึงกับมีกฎหมายที่ห้ามการกระทำที่เป็นอนาจาร ทั้งนี้เพราะรู้ดีว่าถ้าสัญชาตญาณตัวนี้ถูกปลุกขึ้นมาละก็ต้องยุ่งแน่ ๆ การที่ไม่สามารถจะแสดงพฤติกรรมเพื่อตอบสนองสัญชาตญาณนี้ได้อย่างโจ๋งครื่ม จึงทำให้มนุษย์แสดงพฤติกรรมที่เป็นนัยต่อกัน เพื่อสื่อความหมายและตอบสนองสัญชาตญานที่ถูกแอบซ่อนไว้

สัญชาตญาณสืบพันธุ์ เป็นสัญชาตญาณทางเพศที่แสดงออกมาในรูปแบบของความปรารถนาที่จะให้มีผู้หนึ่งผู้ใดหรือแม้แต่ตัวเองแสดงความชื่นชมในเพศที่ตนครอบครองอยู่ คงจะไม่มีใครปฎิเสธได้ว่าพฤติกรรมเช่นว่านี้เรากระทำกันอยู่เป็นประจำ เช่น การส่องกระจกมองดูตัวเอง ซึ่งบางทีก็มีการเพ่งพินิจพิจารณาบางคนก็หัดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่หน้ากระจก เอียงซ้ายเอียงขวาอยู่เป็นนานสองนานต่อวันเลยทีเดียว ยิ่งถ้าเกิดมีคนมาสนใจด้วยแล้วก็อาจจะถึงกับรำพึงกับตนเองอย่างภาคภูมิใจว่า "เราก็สวยดีเหมือนกัน"

เนื่องจากมนุษย์ไม่สามารถที่จะใช้พฤติกรรมเพื่อตอบสนองสัญชาตญาณนี้ได้โดยทางตรงจึงใช้สิ่ง ต่าง ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ตัว ที่สามารถนำมาใช้ได้เป็นสื่อแสดงถึงความปรารถนาที่จะได้รับการตอบสนองในด้านนี้ได้ การแต่งกายก็เป็นสื่อประเภทหนึ่งที่มนุษย์นำมาใช้เพื่อการตอบสนองสัญชาตญาณ เพราะ เสื้อผ้าอาภรณ์เครื่องแต่งกายนั้น นอกจากจะใช้เพื่อห่อหุ้มร่างกาย ปกป้องร่างกายให้ปลอดภัยจากสิ่งที่เป็นอ้นตราย เช่น ความร้อน ความหนาวเย็นของอากาศแล้ว ยังใช้ปกปิดร่างกายให้พ้นจากสายตาผู้อื่น เพราะสรีระของร่างกายนั้น ธรรมชาติสร้างขึ้นมาเป็นตัวกระตุ้นต่อมอยาก เพื่อให้เกิดการสืบพันธุ์ชึ้น เพื่อไม่ให้เป็นที่เปิดเผยในเวลาที่ไม่ต้องการมีเพศสัมพันธ์ ก็ควรจะปกปิดอวัยวะเพศไว้ แม้ว่ามนุษย์จะปกปิดความต้องการการตอบสนองสัญชาตญาณสืบพันธุ์เพียงใดก็ไม่สามารถจะขัดขวางไม่ให้มนุษย์แสดงพฤติกรรมที่เป็นสัญชาตญาณสืบพันธุ์นี้ได้ก็ตาม

การแต่งกายจึงเป็นจุดหนึ่งที่ได้ถูกนำมาขายเป็นธุรกิจที่ทำเงินเพราะเป็นสินค้าที่สร้างความดึงดูดจิตใจซึ่งตอบสนองสัญชาตญาณนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะถ้าการแต่งกายเป็นการตอบสนองแค่ความต้องการความปลอดภัยแต่เพียงเท่านั้น การออกแบบเครื่องแต่งกายอย่างบ้าคลั่งก็คงจะไม่มี และธุรกิจแฟชั่นก็คงจะไม่ทำเงินไม่ได้มากอย่างทุกวันนี้ แต่ที่รู้ ๆ ธุรกิจเครื่องแต่งกายไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับต่าง ๆ ประเภท สามารถทำให้คนกลายเป็นเศรษฐีขึ้นมาได้ ด้วยธุรกิจออกแบบเครื่องแต่งกายที่พยามยามจะตอบสนองสัญชาตญาณของมนุษย์ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ดังนั้นจึงพอสรุปได้ว่า สินค้าที่ทำเงิน คือ สินค้าที่เข้าใจสัญชาตญาณของมนุษย์นั่นเอง เมื่อคนใช้การแต่งกายเป็นสื่อแสดงถึงสัญชาตญาณสืบพันธุ์ ก็หมายความว่าจะต้องการให้ตัวสื่อทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้น เช่น การนุ่งห่มที่ไม่มิดชิด มีลักษณะเบาบางมองทะลุปรุโป่ง เข้าไปถึงในใส้ในพุง หรือไม่ก็มีแหว่ง มีเว้าในบริเวณที่เป็นจุดเป็นจุดยุทศาตร์ทำให้หวาดเสียว อย่างที่พูดล้อกันเล่นว่ากลัวนมหก เป็นต้น การออกแบบเสื้อผ้าก็เช่นเดียวกัน บางรายจะออกแบบกระโปรงให้ใช้ซิปรูดแบบยาวตั้งแต่ขอบชายกระโปรงจนถึงเอวทำให้เกิดความรู้สึกยั่วยวนว่า มองเห็นลู่ทางในการถอดหือเปลื้อง ถ้าจะทำกิจกรรมทางเพศก็คงจะง่ายดีไม่ต้องถอดหรือถลกให้เสียเวลา เมื่อรูดซิปออกกระโปรงก็ยังสามารถใช้เป็นผ้าปูรองพื้นได้อีกด้วย เข้าใจคิดออกแบบให้ใช้งานได้เอนกประสงค์ มีนักสิทธิสตรีกล่าวว่า คนอื่นไม่มีสิทธิที่จะที่จะดูการแต่งกายแล้วคิดจินตนาการว่ายั่วยวนไปเอง ถามว่ามันห้ามกันได้หรือ

สัญชาตญาณของชีวิตมีมากมายและไม่จำเป็นจะต้องเป็นสิ่งที่มนุษย์ทำแล้วรู้ตัวเสมอไป การที่มนุษย์กระทำโดยไม่รู้ตัวในบางสถานการณ์นี้เองจึงอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ เพราะมัวแต่มุ่งที่จะตอบสนองสัญชาตญาณตัวหนึ่งแต่เพียงอย่างเดียวอย่างเพลิดเพลิน จนลืมที่จะตอบสนองสัญชาตญาณความปลอดภัย ภัยร้ายจึงมาถึงตัวโดยไม่ทันได้ตั้งตัว จากข่าวต่าง ๆ เช่น ครูสาวที่ถูกลวงตัวมา หรือน้องฝ้าย ก็น่าจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจได้บ้าง ดังนั้นจึงควรระวังที่จะไม่หลวมตัวตอบสนองสัญชาตญาณอย่างไม่รู้เท่าทัน ทั้งนี้เพื่อว่าสัญชาตญาณทุกตัวจะได้มีโอกาสที่จะนำความสุขและหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะก่อให้เกิดความทุกข์ ให้สัญชาตญาณทำหน้าที่แค่บอกว่าขณะนี้เราตอบสนองสัญชาตญาณตัวใดอย่าให้สัญชาตญาณต้องตระโกนบอกเลย เพราะนั่นหมายความว่ามันเกินความพอดี และเกินงามจ้ะ