ละไว้ในฐานที่ไม่เข้าใจ
ในการพูดจาสื่อสารกันนั้น
สิ่งหนึ่งที่ทำให้การสื่อสารสื่อความหมายจากผู้สื่อสารไปยังผู้รับสารเป็นไปอย่างถูกต้องตามที่ผู้สื่อสารต้องการ
คือ
การมีกรอบอ้างอิงในสิ่งที่สื่อสารเดียวกัน
กรอบอ้างอิงนี้จะทำให้การสื่อสารโดยเฉพาะการสื่อสารที่ใช้การพูดสนทนาตอบโต้กันในเรื่องราวต่าง
ๆ
ได้อย่างราบรื่น
ถ้าผู้สื่อสารและผู้รับสารไม่มีกรอบอ้างอิงเดียวกันการแปลความหมายก็อาจจะกลายเป็นคนละเรื่องเดียวกันไปก็ได้
อย่างที่เรียกว่า
ไปไหนมาสามวาสองศอก
หรือ
เข้าไม่ถูกช่องอะไรประเภทนั้นไปก็ได้
ตัวอย่างเช่น
ภาษาต่างประเทศที่อาจจะเป็นคำศัพท์วิชาการเฉพาะที่เรานำเอาใช้โดยไม่มีการแปลความหมายหรือที่เรียกว่าใช้ทับศัพท์
อาจจะมีความหมายไปพ้องกับคำในภาษาไทยของเราที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดถ้าเรานำมาใช้กับบุคคลที่มีกรอบอ้างอิงที่ต่างกัน เพื่อนของฉันคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า
บางทีหมอก็พูดสั้น
ๆ
แบบหมอจนทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้เช่นกัน
เช่น
ลูกสาวคุณเป็น
ดาวน์
ทำเอาคนเป็นพ่อออกอาการดีใจ
ด้วยความตื่นเต้นแกมสงสัยจึงถามว่า
“คุณหมอมองออกว่าลูกสวยของผมปานนั้นเชียวหรือครับ
ลูกผมสวยขนาดเป็นดาวประจำห้องเด็กเลยนะนี่”
คุหมอเองก็คงงง
เพราะความหมาย
ของคำว่า
ดาวน์
คือ
ปัญญาอ่อนต่างหาก
หรือที่เรียกว่า
ดาวน์ซินโดรม (Down Syndrome)
อาการเช่นว่านี้
เหล่าบรรดาแพทย์และพยาบาลมักจะนำมาเรียกให้สั้น
ๆ
เป็นการละไว้ในฐานที่เข้าใจ (ของผู้พูด) แต่คนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงนี้ก็อาจจะเกิดความเข้าใจที่ผิดพลาดได้
เพราะเป็นการละไว้ในฐานที่ไม่เข้าใจ
(ของผู้ฟัง)
บนฐานของกรอบอ้างอิงที่แตกต่างกัน
ทำให้การตีความหรือการแปลความหมายไม่ตรงกัน
ในกรณีที่ประสบมาด้วยตนเอง
มีอยู่ครั้งหนึ่งทั้ง
ๆ
ที่ฉันเปิดจักรเย็บผ้าเพื่อซ่อมแซมเสื้อผ้าซึ่งฉันก็แน่ใจว่าสามีของฉันก็รับรู้ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ และเมื่อเขาจะออกไปสวนจตุจักรฉันจึงฝากให้ซื้อเข็มมาให้ด้วย
แต่เมื่อสามีกลับมา
เขาก็รีบรายงานฉันว่า
"น้องไม่ได้บอกพี่ว่าอยากได้เข็มสีอะไร
พี่เลยซื้อมาทุกสีเลย"
ฉันก็เป็นงงว่าทำไมเข็มจึงมีหลายสีได้
หรือเป็นเพราะฉันห่างเหินกับวงการนี้มานานเลยไม่รู้ว่าเข็มที่ฉันต้องการนี้ได้วิวัฒนาการก้าวหน้าไปไกลแล้ว
ยังไม่ทันที่ฉันจะกล่าวขอบคุณ
พลันก็ได้ยินเสียงสามีผู้แสนดีของฉันพูดกับลูกชายคนเล็กว่า "ไปถามแม่เขาซิว่าจะปลูกตรงที่เดิมที่บอกพ่อเมื่อวานนี้หรือเปล่า"
แถมยังบ่นต่อว่า
"แม่แกเขาเปลี่ยนใจวันละร้อยหน
เมื่อวานเห็นบอกว่าไม่เอาเข็ม"
พอได้ยินแค่นั้นฉันก็รู้ได้ทันทีว่า
เข็มที่ฉันต้องการ
มันคนละเข็มกับที่เขาซี้อมา
จะว่าเราไม่ได้เปิดเผยกรอบอ้างอิงของกันและกันหรือก็ไม่ใช่
แต่มันเป็นเพราะฉันละไว้ในฐานที่ไม่เข้าใจมากกว่าจึงทำให้เข็มจักรในมโนภาพของฉันกลายเป็นต้นดอกเข็มในมโนภาพของสามีไปได้
และในที่สุดร่องดินที่ฉันอยากจะปลูกดอกไม้ในฝันก็เป็นอันต้องกลับกลายเป็นแนวต้นเข็มด้วยประการฉะนี้
เมื่ออยู่ในช่วงพักและว่างจากการสอน พวกเราชาวอาจารย์ก็จะพูดคุยกันบ้างและในบางครั้งเราก็มักจะงัดเอาเรื่องหน้าแตกของคนในครอบครัวมาเล่าสู่กันฟังบ้างเพื่อคลายเครียดเพื่อนคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า
เมื่อวันก่อนคุณแม่ชมหมอฟันซึ่งเป็นหลานชายว่าหน้ารักมาก
"นายตู่เขาดูแลเอาใจใส่ดูแลแม่ในขณะทำฟันเป็นอย่างดีพอฉีดอะไรเข้าไปในปากแม่ก็จะคอยถามว่า
“ชาไหมครับ”
แม่ก็สั่นหน้าพอเขาถามหนัก
ๆ
เข้า
“แม่เกรงใจก็เลยบอกไปว่า
เอาก็ได้แต่ขอเป็นกาแฟดีกว่า"
ฉันไม่ได้ซักเพื่อนคนนั้นว่า ท่านได้กินกาแฟไปกี่แก้ว
และท่านต้องอยู่กับหมอฟันกี่ชั่วโมงถึงได้ทำฟันเสร็จ
ฉันเดาเอาว่า
ถ้าคุณหมอไม่เติมคำที่ละไว้ในฐานที่เข้าใจให้คุณป้ารู้ว่า
ชานั้นหมายถึงอาการชา
ป่านนี้ก็คงยังทำฟันไม่เสร็จแน่เลย
ฉันยังจำได้ว่าเมื่อตอนที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีที่หนึ่งนั้น
พวกเรามักจะต้องจับกลุ่มกันอย่างหนาแน่นเพราะเนื่องจากเป็นสถานที่เรียนใหม่ที่พวกเรายังไม่คุ้นเคย
เวลาอาจารย์สั่งงานพวกเราก็จะคอยเตือนกันไม่ให้ลืม
วันหนึ่งก่อนกลับบ้าน
เพื่อนที่เป็นหัวหน้าบอกกับพวกเราว่า
พรุ่งนี้เรียนเคมี
อาจารย์ให้เอา “กาว”
มาด้วย
ฉันเองในตอนนั้นก็คิดอย่างนักวิทยาศาสตร์ว่าอาจารย์คงจะเอามาใช้ทำการทดลองเพื่อแยกสารละลาย
หรือไม่ก็มาสอนเราทำสลากชื่อสารเคมี
ในวันรุ่งขึ้นว่าพวกเราทั้ง
30
กว่าคน
ต่างก็นำกาวมาวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าของตัวเองเพื่อรออาจารย์ผู้สอนพร้อมทั้งรอคอยคำชมจากอาจารย์ว่าพวกเรานั้นเป็นเด็กดีประพฤติตนอยู่ในโอวาทของอาจารย์
แต่เมื่ออาจารย์ผู้สอนเดินเข้ามา
ท่านก็เริ่มทำหน้าบึ้งตึงและถามอย่างหัวเสียว่า"ทำไมพวกนักศึกษาจึงไม่ใส่เสื้อกาวน์มาห้องปฏิบัติการ
ครูอุตส่าห์ให้หัวหน้ามาเตือนก็ยังทำเฉยจะอวดดีหรืออย่างไร"
ฉันค่อย
ๆ
เหลือบตามองดูเพื่อนที่นั่งอยู่แถวเดียวกัน
พบว่า
ทุกคนจ้องเขม็งอยู่ที่ขวดกาวที่ได้อุตส่าห์วิ่งซื้อเมื่อวานแบกขึ้นรถเมล์มาจากบ้าน
ด้วยความกลัวอาจารย์พวกเรายอมโดนดุทั้งชั่วโมงเพราะไม่มีใครกล้าไปชี้แจงเรื่องราวการสื่อสารที่ผิด
ๆ
นี้
โถ
อาจารย์ขา
พวกหนูเพิ่งจะหลุดมาจากโรงเรียนมัธยม
เสื้อกงเสื้อกาวน์น่ะหนูก็รู้จักอยู่เหมือนกัน
แต่หนูรู้จัก
กาวที่เอาไว้แปะรูป
ทำกล่องทำถุง
มากกว่านี่คะแล้วหนูผิดตรงไหนล่ะ
พอหมดชั่วโมงอาจารย์ก็เดินออกจากห้องไปอย่างโกรธแค้น
เพื่อนคนหนึ่งก็โพล่งขึ้นมาว่า
"ต่อไปนี้
ห้ามละไว้ในฐานที่เข้าใจนะ
(โว๊ย)"
|