ดร.สุภัททา ปิณฑะแพทย์

Dr.Supatta Pinthapataya

email: supattapin@yahoo.com







ละไว้ในฐานที่ไม่เข้าใจ

       

ในการพูดจาสื่อสารกันนั้น สิ่งหนึ่งที่ทำให้การสื่อสารสื่อความหมายจากผู้สื่อสารไปยังผู้รับสารเป็นไปอย่างถูกต้องตามที่ผู้สื่อสารต้องการ  คือ การมีกรอบอ้างอิงในสิ่งที่สื่อสารเดียวกัน  กรอบอ้างอิงนี้จะทำให้การสื่อสารโดยเฉพาะการสื่อสารที่ใช้การพูดสนทนาตอบโต้กันในเรื่องราวต่าง ได้อย่างราบรื่น ถ้าผู้สื่อสารและผู้รับสารไม่มีกรอบอ้างอิงเดียวกันการแปลความหมายก็อาจจะกลายเป็นคนละเรื่องเดียวกันไปก็ได้ อย่างที่เรียกว่า ไปไหนมาสามวาสองศอก หรือ เข้าไม่ถูกช่องอะไรประเภทนั้นไปก็ได้ ตัวอย่างเช่น ภาษาต่างประเทศที่อาจจะเป็นคำศัพท์วิชาการเฉพาะที่เรานำเอาใช้โดยไม่มีการแปลความหมายหรือที่เรียกว่าใช้ทับศัพท์ อาจจะมีความหมายไปพ้องกับคำในภาษาไทยของเราที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดถ้าเรานำมาใช้กับบุคคลที่มีกรอบอ้างอิงที่ต่างกัน เพื่อนของฉันคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า บางทีหมอก็พูดสั้น แบบหมอจนทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้เช่นกัน เช่น ลูกสาวคุณเป็น ดาวน์ ทำเอาคนเป็นพ่อออกอาการดีใจ ด้วยความตื่นเต้นแกมสงสัยจึงถามว่า คุณหมอมองออกว่าลูกสวยของผมปานนั้นเชียวหรือครับ ลูกผมสวยขนาดเป็นดาวประจำห้องเด็กเลยนะนี่ คุหมอเองก็คงงง เพราะความหมาย ของคำว่า ดาวน์ คือ ปัญญาอ่อนต่างหาก หรือที่เรียกว่า ดาวน์ซินโดรม (Down   Syndrome) อาการเช่นว่านี้ เหล่าบรรดาแพทย์และพยาบาลมักจะนำมาเรียกให้สั้น เป็นการละไว้ในฐานที่เข้าใจ (ของผู้พูด)  แต่คนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงนี้ก็อาจจะเกิดความเข้าใจที่ผิดพลาดได้ เพราะเป็นการละไว้ในฐานที่ไม่เข้าใจ (ของผู้ฟัง) บนฐานของกรอบอ้างอิงที่แตกต่างกัน ทำให้การตีความหรือการแปลความหมายไม่ตรงกัน

ในกรณีที่ประสบมาด้วยตนเอง มีอยู่ครั้งหนึ่งทั้ง ที่ฉันเปิดจักรเย็บผ้าเพื่อซ่อมแซมเสื้อผ้าซึ่งฉันก็แน่ใจว่าสามีของฉันก็รับรู้ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ และเมื่อเขาจะออกไปสวนจตุจักรฉันจึงฝากให้ซื้อเข็มมาให้ด้วย แต่เมื่อสามีกลับมา เขาก็รีบรายงานฉันว่า "น้องไม่ได้บอกพี่ว่าอยากได้เข็มสีอะไร พี่เลยซื้อมาทุกสีเลย ฉันก็เป็นงงว่าทำไมเข็มจึงมีหลายสีได้ หรือเป็นเพราะฉันห่างเหินกับวงการนี้มานานเลยไม่รู้ว่าเข็มที่ฉันต้องการนี้ได้วิวัฒนาการก้าวหน้าไปไกลแล้ว  ยังไม่ทันที่ฉันจะกล่าวขอบคุณ พลันก็ได้ยินเสียงสามีผู้แสนดีของฉันพูดกับลูกชายคนเล็กว่า "ไปถามแม่เขาซิว่าจะปลูกตรงที่เดิมที่บอกพ่อเมื่อวานนี้หรือเปล่า" แถมยังบ่นต่อว่า "แม่แกเขาเปลี่ยนใจวันละร้อยหน เมื่อวานเห็นบอกว่าไม่เอาเข็ม" พอได้ยินแค่นั้นฉันก็รู้ได้ทันทีว่า เข็มที่ฉันต้องการ  มันคนละเข็มกับที่เขาซี้อมา จะว่าเราไม่ได้เปิดเผยกรอบอ้างอิงของกันและกันหรือก็ไม่ใช่  แต่มันเป็นเพราะฉันละไว้ในฐานที่ไม่เข้าใจมากกว่าจึงทำให้เข็มจักรในมโนภาพของฉันกลายเป็นต้นดอกเข็มในมโนภาพของสามีไปได้   และในที่สุดร่องดินที่ฉันอยากจะปลูกดอกไม้ในฝันก็เป็นอันต้องกลับกลายเป็นแนวต้นเข็มด้วยประการฉะนี้

เมื่ออยู่ในช่วงพักและว่างจากการสอน พวกเราชาวอาจารย์ก็จะพูดคุยกันบ้างและในบางครั้งเราก็มักจะงัดเอาเรื่องหน้าแตกของคนในครอบครัวมาเล่าสู่กันฟังบ้างเพื่อคลายเครียดเพื่อนคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า  เมื่อวันก่อนคุณแม่ชมหมอฟันซึ่งเป็นหลานชายว่าหน้ารักมาก   "นายตู่เขาดูแลเอาใจใส่ดูแลแม่ในขณะทำฟันเป็นอย่างดีพอฉีดอะไรเข้าไปในปากแม่ก็จะคอยถามว่าชาไหมครับ แม่ก็สั่นหน้าพอเขาถามหนัก เข้าแม่เกรงใจก็เลยบอกไปว่า เอาก็ได้แต่ขอเป็นกาแฟดีกว่า" ฉันไม่ได้ซักเพื่อนคนนั้นว่า ท่านได้กินกาแฟไปกี่แก้ว และท่านต้องอยู่กับหมอฟันกี่ชั่วโมงถึงได้ทำฟันเสร็จ ฉันเดาเอาว่า ถ้าคุณหมอไม่เติมคำที่ละไว้ในฐานที่เข้าใจให้คุณป้ารู้ว่า ชานั้นหมายถึงอาการชา ป่านนี้ก็คงยังทำฟันไม่เสร็จแน่เลย

ฉันยังจำได้ว่าเมื่อตอนที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีที่หนึ่งนั้น พวกเรามักจะต้องจับกลุ่มกันอย่างหนาแน่นเพราะเนื่องจากเป็นสถานที่เรียนใหม่ที่พวกเรายังไม่คุ้นเคย เวลาอาจารย์สั่งงานพวกเราก็จะคอยเตือนกันไม่ให้ลืม วันหนึ่งก่อนกลับบ้าน  เพื่อนที่เป็นหัวหน้าบอกกับพวกเราว่า พรุ่งนี้เรียนเคมี  อาจารย์ให้เอากาว มาด้วย ฉันเองในตอนนั้นก็คิดอย่างนักวิทยาศาสตร์ว่าอาจารย์คงจะเอามาใช้ทำการทดลองเพื่อแยกสารละลาย หรือไม่ก็มาสอนเราทำสลากชื่อสารเคมี ในวันรุ่งขึ้นว่าพวกเราทั้ง 30 กว่าคน ต่างก็นำกาวมาวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าของตัวเองเพื่อรออาจารย์ผู้สอนพร้อมทั้งรอคอยคำชมจากอาจารย์ว่าพวกเรานั้นเป็นเด็กดีประพฤติตนอยู่ในโอวาทของอาจารย์ แต่เมื่ออาจารย์ผู้สอนเดินเข้ามา ท่านก็เริ่มทำหน้าบึ้งตึงและถามอย่างหัวเสียว่า"ทำไมพวกนักศึกษาจึงไม่ใส่เสื้อกาวน์มาห้องปฏิบัติการ  ครูอุตส่าห์ให้หัวหน้ามาเตือนก็ยังทำเฉยจะอวดดีหรืออย่างไร" ฉันค่อย  เหลือบตามองดูเพื่อนที่นั่งอยู่แถวเดียวกัน พบว่า ทุกคนจ้องเขม็งอยู่ที่ขวดกาวที่ได้อุตส่าห์วิ่งซื้อเมื่อวานแบกขึ้นรถเมล์มาจากบ้าน ด้วยความกลัวอาจารย์พวกเรายอมโดนดุทั้งชั่วโมงเพราะไม่มีใครกล้าไปชี้แจงเรื่องราวการสื่อสารที่ผิด นี้ โถ อาจารย์ขา พวกหนูเพิ่งจะหลุดมาจากโรงเรียนมัธยม เสื้อกงเสื้อกาวน์น่ะหนูก็รู้จักอยู่เหมือนกัน แต่หนูรู้จัก กาวที่เอาไว้แปะรูป ทำกล่องทำถุง มากกว่านี่คะแล้วหนูผิดตรงไหนล่ะ  พอหมดชั่วโมงอาจารย์ก็เดินออกจากห้องไปอย่างโกรธแค้น เพื่อนคนหนึ่งก็โพล่งขึ้นมาว่า "ต่อไปนี้ ห้ามละไว้ในฐานที่เข้าใจนะ (โว๊ย)"   

 

© Copyright 2006. All rights reserved. Contact: supattapin@yahoo.com