ไม่อาว (อะ) จะอาว (อะ)
พ่อแม่หลายคนคงเคยพบปัญหาลูกแผลงฤทธิ์ในห้างสรรพสินค้าเพราะต้องการจะได้ของ(เล่น)ที่วางล่อตาล่อใจอยู่ในร้านค้าเหล่านั้น
ทั้ง ๆที่ได้มีการบอกกำชับกันไว้แล้วอย่างแน่นหนา
ว่าห้ามร้องซื้อของ(เล่น)เด็ดขาด
ตอนยังไม่เห็นของเล่นก็ยังไม่อยากได้ก็จะสัญญา แต่พอเห็นของ (เล่น)
และมันก็เกิดอยากได้ขึ้นมา ก็กลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ไม่ได้ไม่เลิก(ร้อง)บางทีได้แล้วก็ยังไม่เลิก(ร้อง) ดังที่เคยเห็นเด็กร้องไห้ทั้งดิ้นพราด
ๆ โดยไม่ใส่ใจใครใด ๆในโลกนี้ให้เห็นอยู่เนือง ๆ
ไม่ว่ายพ่อแม่จะพยายามขอร้องอ้อนวอนให้หยุดร้อง (ไห้) เพราะอายผู้คนสักเท่าไร
แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยิ่งทำให้ยิ่งร้องมากขึ้น เด็กคงคิดว่า
พ่อกะแม่จะอายก็อายไปซิ หนูไม่อายด้วยหรอก
อาการเช่นนี้มักจะทำให้พ่อแม่เข็ดหลาบกันเป็นราย ๆ ไป
น้องสาวฉันคนหนึ่งละทำท่ายกสามนิ้วให้สัตย์ปฎิญาณอย่างลูกเสือว่าจะไม่ยอมพาเจ้าตัวน้อยที่ร้องไม่อาว(อะ)จะอาว(อะ)
ทุกครั้งที่เจอของเล่นไปไหนอีกแล้ว เพราะพอพาไปเที่ยวทีไรเป็นได้ร้องคราง
ไม่เอา จะเอา ๆ ๆ ให้หนวกหูและน่ารำคาญไปตลอดเส้นทางตอนกลับบ้านทุกทีไป
จนคนทั้งบ้านได้พร้อมใจกันใช้เรียกเป็นชื่อประจำตัวไปแล้ว
น้องสาวของฉันเล่าให้ฟังอย่างมีอารมณ์ต่อว่า
เด็กอะไรพูดไม่รู้เรื่องเลยร้องอยู่ได้ว่า ไม่เอา
(อะ) จะเอา (อะ)แล้วที่ว่าไม่เอา กับ จะเอาน่ะมันใช่ของสิ่งเดียวกันหรือเปล่า
เล่นบอก ไม่เอา (อะ) จะเอา ผอะ) ใครจะไปรู้ได้ว่าจะเอาหรือไม่เอา ก็เลยให้กิน
ขนมเปี๊ยะ บวกขนมตุ้บตั้บแก้อาการคร่ำครวญ ไม่เอาจะเอา ไปหลายที
ความจริงแล้วคำว่า ไม่เอา
(อะ) เป็นภาษาเฉพาะของเด็กที่เอามาใช้แสดงอาการดื้อดึง
ไม่ยอมทำตามหรือแสดงการปฎิเสธสิ่งที่ไม่ชอบ
สาเหตุทำไมต้องบอกไม่เอาก่อนนั้นนักจิตวิทยาบอกว่าเพราะเด็กวัยนี้เป็นวัยช่างปฏิเสธ
ในสมัยที่ฉันไปเป็นครูฝึกสอนเด็กนักเรียน
อนุบาลคำที่ได้ยินจนเคยชินก็คือคำว่า ไม่เอา จากลูกศิษย์ตัวน้อย ๆ ผู้ช่างปฎิเสธด้วยการใช้คำว่า
ไม่เอา ดีนัก บอกให้ทำอะไรก็จะไม่เอาไปเสียทุกอย่าง ถามว่าใครจะเข้า
วีวีที่ห้องน้ำก่อนนอนกลางวันบ้าง ก็จะมีเสียงตอบว่าพร้อมทำปากยื่นว่า
ไม่เอา (อะ) แต่พอล้มตัวลงนอนก็ดีดตัวผฺงกหัวลุกขึ้นพร้อมกับทำปากหมือนเดิมว่า
จะอาว(อะ) แม่บ้านสูงอายุท่านหนึ่งที่คุ้นเคยกับเด็กวัยนี้มานานบอกว่า ประโยคที่ว่า
ไม่เอา (อะ) จะเอา (อะ) นั้นแปลว่าเอา เพราะเคยโดนมา พอถามก็บอกว่า ไม่เอา (อะ)
เราก็ไม่ให้เท่านั้นแหละ
ก็มีเสียงร้องไห้ดังลั่นสวนขึ้นมาว่า ไม่อาว(อะ) จะเอา
(อะ) ในที่สุดถ้าเข้าใจกันทั้งครูทั้งนักเรียน เรื่องก็จะไม่มี
ครั้งหนึ่งฉันเดินผ่านกลุ่มเด็ก
ๆ ที่กำลังเล่นกันคุยกัยตามประสา
ก็ได้ยินเสียงยินเสียงเล็ก ๆของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่ม ที่พูดค้านว่า
ไม่ อาว (อะ) เค้า จา กลัว
ก็ทำให้นึกขำอยู่ในใจ นี่ขนาดจะกลัวยัง ไม่เอา (อะ) ก่อนอีก
บางวันพ่อแม่บางคนฟ้องว่าว่า ทุกวันตอนเช้ากว่าจะมาถึงโรงเรียนได้
ต้องทนฟังเสียงร้อง ไม่อาว(อะ) จะเอา (อะ) มาตลอดทาง "อะไร
ๆ ก็ไม่เอาแล้วจะเอาอะไร" นั่นน่ะซีแล้วจะหยุดร้องได้ไง ก็ของที่ไม่เอา(อะ)
จะเอา (อะ) ยังไม่ได้เลยจะให้หนูหยุดร้องได้ไง จริงไม๊
น้องสาวของฉันยังชี้แจงต่ออีกว่า คำว่า ไม่เอาจะเอา
มีอิทธิพลมากต่อความสงบราบรื่นในครอบครัว
เพราะนอกจากจะทำให้เกิดกรณีพิพาทกับลูกตัวดี
การทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวก็เลยจ่อยไป ทำให้หายอยากทำกิจกรรมนี้ไปอีกนาน
แต่ความจริงแล้วการที่จะแก้ปัญหาด้วยการไม่พาลูกไปไหนอีกเลยนั้นก็เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุซึ่งนอกจากจะกลายเป็นการตัดกิจกรรมกลุ่มของครอบครัวออกไปโดยไม่จำเป็นแล้ว
ยังเป็นการปิดกั้นเด็กไม่ให้ได้รับการฝึกให้รู้จักทำในสิ่งที่เหมาะสมในสังคมอีกด้วย
ดังนั้นจึงควรที่จะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุจะดีกว่า
เอ้า
ใครอยากรู้วิธีแก้ปัญหาบ้าง
ยกมือขึ้นมีเสียงถามสอดแทรกขึ้นมาฉันยกมือโดยอัตโนมัติพร้อมทั้งกวาดสายตาไปยัง
สมาชิกที่อยู่รอบๆและรวมกลุ่มกันอยู่ ณ
บริเวณนั้นแล้วฉันก็พบว่า ทุกคนที่มีอาชีพเป็นพ่อ เป็นแม่
รีบวางมือจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อที่จะได้มีโอกาสยกมือขึ้น
รวมทั้งเจ้าตัวคนถามด้วยที่รู้สึกว่าตั้งอกตั้งใจยกมือขึ้นอย่างสุดแขนเลยทีเดียว
แต่เสียใจด้วยนะ เพราะต้องไปถาม สาวยาคูล เอาเอง
|