ภูมิใจที่ได้เป็นคนแบ่ง
วันนี้เป็นวันหยุดพี่สาวของสามีขอเอาหลานสองคนมาฝากไว้ให้เลี้ยงเนื่องจากต้องไปเยี่ยมญาติฝ่ายสามีที่โรงพยาบาล
ก็นับว่าเป็นงานใหญ่เหมือนกันเพราะเมื่อรวมกับจำนวนลูก ๆ
ของเราเข้าไปด้วยอีกสามคน ก็เท่ากับมีเด็กอายุใกล้เคียงกันเคียงกันทั้งหมด
ห้า คน เริ่มจาก อายุ
7- 3 ขวบ
ต้องบอกว่าหลานทั้งสองคนนี้น้ำหนักรวมกันแล้ว กว่าร้อยกิโล กินเก่ง เสียงดัง
เล่นแรง ส่วนลูก ๆ ของเราเองก็ตัวค่อนข้างผอมใจอ่อน ยอมความง่าย
จะมีก็เจ้าตัวเล็กที่ค่อนข้างเอาเปรียบพี่ ๆ เขาหน่อย
การเอาเด็กผู้ชายทั้งหมดมาอยู่รวมกันก็ย่อมมีความโกลาหลบ้างเป็นธรรมดา
โดยเฉพาะการเล่นก็ต้องมีพลาดพลั้งบ้างเป็นธรรมดา
การดูแลต้องออมชอมและคิดลึกซึ้งหน่อย
เดี๋ยวจะกลายเป็นนี่ลูกนี่หลานก็จะเสียความรู้สึกที่ดีต่อกันไปอีก
ปัญหาที่ยุ่งยากมากที่สุดน่าจะเป็นการ แย่งของเล่นกัน มีการฟ้องร้อง
และการเรียกร้องสิทธิ์ ใครเล่นก่อน ก็จะถือสิทธิ์
ก็ต้องมีการขอร้องให้แบ่งปันกัน ต้องถือว่าของเล่นนั้นควรต้องเล่นด้วยกัน
แม้จะเป็นของเราเขาเล่นก่อนก็ต้องให้เขาเล่น เป็นมารยาทของเจ้าของบ้าน
สูตรสำเร็จมักจะให้พี่ยอมน้องซึ่งก็มักจะทำให้เกิดความคับข้องใจของคนที่เป็นพี่
ดังนั้นจึงควรต้องบอกให้น้องไปขอพี่เขาเล่นบ้างดี ๆ
พ่อแม่อาจจะต้องเข้าไปพูดให้บ้าง
และควรต้องพยายามหาของเล่นอื่นให้น้องเล่นไปก่อน
การที่จะบอกพี่ว่าให้เสียสละให้น้องเพราะน้องยังไม่ค่อยรู้เรื่องนั้นมักจะได้ยินเสียงบ่นจากพี่ว่า
“จะเป็นอย่างงี้อีกนานไหมครับ”
ถ้าโกรธมากก็จะพูดว่า “แม่ก้อ ทั้งปี”
แต่เรื่องไม่เป็นเรื่องนี้มักจะติดค้างอยู่ในใจของเด็กอยู่เสมอมักจะไม่จบลงโดยง่าย
การแบ่งปัน
สิ่งหนึ่งที่สำคัญเมื่อรวมญาติคือ การจัดระบบการอยู่ด้วยกัน
ซึ่งบางครั้งอาจต้องมีกฎเกณฑ์บ้างเพื่อวางกรอบความคิดเบื้องต้น
การแชร์สิ่งของที่เป็นของเล่นอาจจะไม่เหมือนกับการแบ่งปันของกิน โดยเฉพาะเด็ก
ๆ มักจะหวงขนมของตัวแต่จะเอาของคนอื่น สิ่งทีเด็กชอบทำก็คือ
จะเอามากินเยาะเย้ย หลอกล่อให้เพื่อนอยากกิน ทำให้เกิดกรณีพิพาทขึ้นมาอีก
ดังนั้นกฎเหล็กคือ เมื่อเอาขนมออกมากินต้องแบ่งให้เพื่อนด้วย
ไม่เช่นนั้นต้องเก็บไปกินคนเดียวไม่ให้คนอื่นเห็น
การแบ่งขนมให้เพื่อนก็เช่นกัน ก็ต้องมีเกณฑ์กำหนดว่าขนมนั้นเป็นขนมของใคร
เขาอยากจะแบ่งปันเท่าไรก็ต้องตามใจเจ้าของขนมเขา
จะมาเรียกร้องเอาเท่านั้นเท่านี้ไม่ได้ เพราะไม่ใช่ของเรา
การบังคับจะเอาเท่ากันเจ้าของก็จะทำให้เจ้าของเกิดความคับข้องใจ
พาลพาโลเดือดดาลก็จะเป็นเรื่อง
อันนี้ต้องมีความคิดแบบจิตวิทยาหน่อยคือต้องให้เจ้าของแสดงอำนาจของความเป็นเจ้าของเพื่อจะให้เด็กให้สิ่งที่ตนเป็นเจ้าของแก่คนอื่นด้วยตัวเองด้วย
ในกรณีที่พูดอย่างไรก็ยังไม่ยอมแบ่งปันจะทำอย่างไรดี
โดยเฉพาะขนมหรือของกินซึ่งดูแล้วน่าเกลียดมาก ข้อเสนอแนะกิจกรรมให้ทดลองทำคือ
แอบให้เงินพี่แล้วพาไปเลือกซื้อขนมมาทำการแบ่งให้น้องทุกคนแต่ไม่ให้คนที่ไม่ยอมให้คนอื่นกินของตัว
ส่วนใหญ่ขนมที่ซื้อมาใหม่มักเป็นที่น่าสนใจอยู่แล้ว
ถ้าเด็กเจ้าปัญหามายืนมองกะลิ้มกะเลี่ย จะขอด้วยก็ต้องให้พี่พูดว่า
“ที่พี่ไม่ให้หนูเพราะเวลาหนูมีขนมหนูยังไม่แบ่งให้คนอื่นเลย
ถ้าหนูอยากได้หนูต้องเอาขนมของหนูมาแบ่งให้พวกเราก่อน”
ถึงตอนนี้ก็ต้องวัดใจกันละว่าจะสำเร็จหรือไม่ ส่วนใหญ่มักจะสำเร็จทุกราย
ถ้าไม่มีผู้ใหญ่คนอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย นอกจากนี้ก็ควรสอนให้ลูก ๆ
รู้จักคิดบ้าง
ลูกบางบ้านอะไรที่ตัวชอบโกยเอามาไว้ในจานของตัวจนน่าเกลียดแล้วก็กินไม่หมด
หรือไม่ก็เดินไปหยิบกินจากโต๊ะจนเกือบหมด
พ่อแม่บางคนไม่ว่าอะไรเพราะคิดว่าดีแล้วที่ลูกกินได้แต่นี่เป็นการเพาะนิสัยที่ไม่คิดถึงใครนอกจากตนเอง
กิจกรรมหนึ่งที่นำมาใช้เพื่อสร้างนิสัยแบ่งปันคือ
การช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรกับอาหารบนโต๊ะจึงจะทำให้ได้กินทุกคน เช่น
ต้องให้ช่วยกันคิดว่าลูกชิ้นที่ซื้อมา หนึ่งร้อยลูกนี้
ถ้ากินกันเจ็ดคนจะได้คนละเท่าไร อาจมีการหารือกันบ้าง มีเสียงบ่นจากหลานว่า
“ทำไมต้องแบ่งด้วย”
“แบ่งแล้วเหลือคนละนิดเดียวเอง”
ก็เลยต้องอธิบายให้ข้อคิดกันหน่อย
ในที่สุดก็สรุปว่าให้แบ่งเหมือนแบ่งเนื้อเค็มก็แล้วกัน คือ เอาชามมา เจ็ดชาม
จากนั้นก็ค่อย ๆ ช่วยกันเชียร์ว่าจะเอาลูกชิ้นใส่ลงในชามไหนจึงจะยุติธรรม
วนไปจนกว่าลูกชิ้นจะหมด
ทุกคนคอยจ้องตาเป็นมันกอดชามของตัวไว้แล้วคอยยื่นส่งให้คนแบ่งเอาลูกชิ้นหย่อนลงมา
นับกันเสียงขรมว่าได้แล้วกี่ลูก และถ้ามีเศษล่ะจะทำอย่างไร
ทุกคนตกลงว่าให้เอาไว้กองกลาง
ถ้าสังเกตดูให้ดีจะเห็นเจ้าตัวเล็กมองตามลูกชิ้นที่จะลงไปอยู่ชามที่เป็นกองกลางจนน้ำลายไหลเนื่องจากอยากได้มากกว่าคนอื่น
กิจกรรมแบบนี้ก็สนุกไปอีกอย่างหนึ่ง ตอนนี้มาถึงหมูสับซึ่งมีปัญหามากกว่า
เส้นก๋วยเตี๋ยว ผักชี ต้นหอม ถั่วงอก ก็ต้องจัดแบ่งไว้เป็นกอง ๆ
เพื่อให้แต่ละคนมาเลือกเป็นเจ้าของส่วนตัว
สำหรับปรุงกับเส้นและถั่วงอกและอื่น ๆ ที่ไม่จำกัดปริมาณ
วิธีการเลือกว่าใครจะได้กองไหนนั้นขอให้น้องที่อายุน้อยที่สุดเป็นคนเลือกก่อน
พี่ ๆ ต้องเสียสละ
กิจกรรมนี้แม้จะต้องใช้เวลาสักหน่อยแต่ก็คุ้มค่าเพราะเป็นการสอนเรื่องการเสียสละให้ผู้ที่อ่อนแอกว่า
ซึ่งอาจเชื่อมโยงไปถึงการสอนให้เสียสละที่นั่งให้คนแก่ เด็ก และผู้หญิง
ในอนาคตตอนนี้พี่ ๆ
ที่ยืนรอเข้าแถวเรียงตามลำดับอายุอยู่ก็จะเริ่มเตือนน้องตัวเล็กว่าเลือก ๆ
ไปเถอะพี่หิวจะแย่แล้ว ถ้าไม่พอพี่จะเอาของพี่เพิ่มให้ทีหลัง
เท่านั้นแหละเจ้าตัวน้อยก็เลือกได้ทันที
แล้วหันมาทำตาโตกำชับว่าอย่าลืมที่สัญญาไว้นะ
ในความเป็นจริงแล้วตัวเองก็ยังกินของตัวเองไม่หมด
การแบ่งปันนี้ติดตัวทุกคนมาจนถึงทุกวันนี้
จนทำให้ลูกบ้านนี้มีพฤติกรรมเหมือนกัน คือ
ถ้าจะซื้อของมากินในบ้านต้องซื้อเผื่อคนอื่นด้วยอย่างน้อยหนึ่งชุด
เพื่อตัวเองจะได้กินของตัวเองสบายใจไม่ต้องมีคนอื่นมาขอแบ่งด้วย ใครอยากแจมด้วยก็กรุณาเอาส่วนที่ซื้อมาเผื่อนั้นไปแบ่งกันเอาเองไม่เกี่ยวกับส่วนของผม
การแบ่งปันอาหารเป็นมารยาทในการกินสากล เพราะฝรั่งก็จะจัดอาหารเป็นชิ้น ๆ
เท่าจำนวนคนเช่นกัน อาจจะมีไว้เผื่อบ้างแต่ก็ไม่เสมอไป
ดังนั้นการให้รู้จักการแบ่งปันนอกจากจะเป็นการสอนให้รู้จักการเอื้ออาทรซึ่งกันและกันภายในหมู่พี่น้องแล้วยังเป็นการสอนมารยาทสากลให้แก่เด็ก
ๆ อีกด้วย การเรียนรู้เกิดขึ้นในบ้านได้เสมอ
และแล้วยังไม่ทันจะได้หยุดพักให้หายเหนื่อยเสียงหลานชายตัวอ้วนกลมตะโกนมาว่า
“น้าขาวครับ ถึงเวลานับคุกกี้อีกกระป๋องแล้วนะครับ”
น่ารักจริง |