ดร.สุภัททา ปิณฑะแพทย์

Dr.Supatta Pinthapataya

email: supattapin@yahoo.com







บทที่ 4

การพัฒนางานด้วยความคิดสร้างสรรค์

            มนุษย์มีสมองเป็นอาวุธที่สามารถใช้งานในด้านการคิดได้อย่างน่ามหัศจรรบ์ ทำให้สามารถคิดค้นสิ่งต่าง ๆ และนำมาใช้ประโยชน์ทางด้านธุรกิจ พบว่าเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่มนุษย์คิดค้นขึ้นมาตั้งแต่เริ่มแรกบัดนี้ได้พัฒนาต่อเนื่องและต่อยอดไปยาวไกลและขยายวงกว้างออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้มีการสร้างงานทางธุรกิจใหม่ ๆ ขึ้นมาอีกมากมาย ความเจริญทางด้านเทคโนโลยี การนำพลังงานและรังสีจากภายในและภายนอกโลกในชั้นบรรยากาศต่าง ๆ เกิดจากสติปัญญาของมนุษย์ทั้งสิ้น 

ความสำคัญของความคิดสร้างสรรค์

          ความคิดสร้างสรรค์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิต ถ้ามนุษย์ไม่คิดไม่จินตนาการสิ่งที่แตกแตกต่างไปจากเดิมความเจริญรางเรืองก็อาจจะยังคงอยู่กับที่ไม่มีการพัฒนาดังที่ปรากำอยู่ในปัจจุบันนี้ 

แม้ว่าความคิดและจินตนาการของมนุษย์จะเป็นสิ่งที่รี้ลับ ยังไม่สามารถศึกษาให้รู้รายละเอียดและความซับซ้อนของกระบวนการได้ แต่จากการศึกษาทางด้านสรีรวิทยา พบว่า มนุษย์มีสมอง 2 ซีก สมองซ๊กขวาจะทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของร่างกายซีกซ้าย และเป็นส่วนที่ควบคุมทักษะด้านพื้นที่และมิติสัมพันธ์ สร้างจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถทางด้านดนตรี บุคคลที่สมองซีกขวาถูกทำลายจะมีความยากลำบากในการวาดรูปภาพ การเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ และการวางแผน

ส่วนสมองซีกซ้ายจะควบคุมการทำงานของร่างกายซีกขวา เป็นส่วนที่ควบคุมการทำงานของสมองด้านการใช้เหตุผลและตรรกศาสตร์ การคิดคำนวณคณิตศาสตร์ และทักษะเกี่ยวกับภาษาและการพูด ถ้าสมองส่วนนี้ถูกทำลายจะทำให้เกิดความยากลำบากในการพูดซึ่งเป็นอาการของโรค อเฟเซีย (Aphasia) เป็นต้น

นอกจากนี้ยังพบว่าอารมณ์มีส่วนทำให้มนุษย์สามารถใช้ความคิดได้อย่างมีคุณภาพ อารมณ์จึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์ด้วยเช่นกัน ผู้ที่มีอารมณ์ตึงเครียด วิตกกังวลมักจะแสดงอาการกระสับกระส่ายไม่สงบนิ่ง อาการเช่นนี้จะ สร้างความคิดในเชิงลบ กีดขวางความคิดในเชิงบวก และอาจทำให้ขาดสติยับยั้ง  ส่วนอารมณ์ที่สบาย ผ่อนคลาย จะเป็นอารมณ์ที่อให้เกิดความิดในเชิงบวกมีจินตนาการที่สร้างสรรค์ที่มีประโยชน์ สภาพของอารมณ์ในเชิงบวกได้แก่ อารมณ์ที่เกิดจากความพอใจ อารมณ์ของมนุษย์มีศูนย์กลางการควบคุมที่สมองซีกขวาด้วยเช่นกัน การแสดงออกทางอารมณ์เป็นการบูรณาการของสมองส่วนกลางกับระบบประสาทอัตโนมัติ

            ในส่วนของจินตนาการนั้น นักจิตวิทยาหลายท่าน รวมทั้ง ฟรอยด์ ได้พยายามศึกษากลไกทางจิตเพื่อหาความรู้ว่ามนุษย์สร้างจินตนาได้อย่างไร สามารถเข้าใจการเกิดเรื่องราวของความฝันของมนุษย์ได้ แต่ก็ยังไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้ชัดเจน การสร้างจินตนาการที่เกินจริงและเกิน ขอบเขตอย่างไรจึงอยู่ในระดับของความปกติ บุคคลที่มีจินตนาการสูงอาจถูกกล่าวหาว่าเสียสติไปก็ได้ ที่เรียกว่า สติเฟื่อง ความใกล้เคียงกันของความคิดอย่างสร้างสรรค์กับจินตนาการที่กว้างไกล จึงมีการให้คำจำกัดความของคำว่าความคิดสร้างสรรค์ว่าต้องเป็นความคิดนอกกรอบที่เป็นไปได้จริงและนำมาใช้ในทางสร้างประโยชน์ และสร้างมูลค่าเพิ่ม

ความคิดสร้างสรรค์กับจินตนาการ

          ความคิดสร้างสรรค์เกิดจากการจินตนาการ การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์จึงเริ่มต้นได้ค้วยการฝึกหัดให้เกิดความคิดและจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์อาจหมายถึงความคิดที่ต่อยอดความคิดเดิมให้ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น หรือการสร้างจินตนาการนอกกรอบความเป็นอยู่เดิม หรือการมองในมุมมองใหม่ บุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์จะมีจินตนาการที่สร้างความคิดใหม่ ๆ ขึ้นมาได้ จากสินค้าที่พบเห็นในปัจจุบัน จะพบว่าด้วยจินตนาการของบุคคลที่สร้างนิยายให้มีการเหยียบโลกบนดวงจันทร์ก็ทำให้เกิดธุรกิจทางด้านการส่งดาวเทียมให้โคจรไปนอกโลก เพื่อประโยชน์ในการใช้งานด้านต่าง ๆ ที่ทำให้ได้ผลของการศึกษาระบบต่าง ๆ ของโลกมากมาย การคำนวณโดยใช้ตัวเลขฐาน 10 มาใช้คำนวณในปัจจุบัน ก็ถือว่าได้ประโยชน์เป็นอย่างมาก และการที่นักวิทยาศาสตร์นำเลขฐาน 2 มาสร้างเป็นโปรแกรมซอฟแวร์สั่งงานได้ฏ็เป็นสิ่งที่นำความเจริญมาสู่โลกด้านเทคโนโลยี ปัจจุบันคอมพิวเตอร์สามารถพลิกผันชีวิตความเป็นอย่างของมนุษย์ได้อย่างเหลือเชื่อ สามารถใช้สื่อสารด้วยการส่ง อีเมล์ ทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งในอดึตการส่งโทรสารได้ทางโทรเลข และการพูดจากันได้ทางโทรศัพท์ ก็เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาแล้ว  ปัจจุบันการพัฒนด้านเทคโนโลยีมีความต่อเนื่องสามารถนำมาใช้งานแทนแรงงานของมนุษย์ เช่น การจัดคลังสินค้าและการเรียกสินค้าตามคำสั่งของการซื้อสินค้า เป็นลักษณะที่เรียกว่า ออโตเมชั่น (Automation) และอื่น ๆ อีกมาย จากความต้องการของมนุษย์ในด้านความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว ความแม่นยำ ต่อเนื่องด้วยความสวยงามด้วยรูปลักษณ์ใหม่ ๆ สีสันที่ถูกตาต้องใจคนในแต่ละเพศและวัย ก็อาจกลายมาเป็นจุดขายที่ผู้สร้างงานธุรกิจต้องนำมาคิดเพื่อการสร้างงานในรูปแบบที่สร้างสรรค์ตามจินตนาการที่ทำให้ผู้บริโภคยอมรับสินค้านั้น 

 การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์

นักจิตวิทยาเด็ก กล่าวว่า เด็กเล็ก ๆ จะมีจินตนาการที่สร้างขึ้นเพื่อสร้างความสุขให้แก่ตนเอง เช่น สร้างจินตนาเพื่อนสมมติ มีการเล่นคนเดียวและพูดคนเดียว จินตนาการเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า มนุษย์มีความสร้างสรรค์มาตั้งแต่วัยเด็ก แต่สาเหตุที่ทำให้ความคิดสร้างสรรค์ค่อย ๆ เลือนหายไปจนไม่สามารถใช้งานได้เลยนั้นส่วนหนึ่งมาจากการอบรมเลี้ยงดูที่ไม่ให้อิสระทางด้านความคิดและจินตนาการที่เหมาะสมกับวัย

              การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ต้องเริ่มต้นที่การพัฒนาด้านการคิดของสมอง ซึ่งสมองต้องการการฝึก ดังเช่นการฝึกความเป็นอัจริยะในด้านการคิดคำนวณ ด้านการใช้ภาษาเช่นกัน มีกิจกรรมที่นักจิตวิทยาสร้างขึ้นเพื่อให้ฝึกคิดแบบสร้างสรรค์ เช่น ให้ลากเล้นผ่านจุด 9 จุดที่ดำหนดโดยไม่ยกมือหรือลากเส้นซ้ำ หรือการสร้างสามเหลี่ยนด้านเท่า 4 รูปด้วยก้านไม้ขีด 6 ก้าน เป็นต้น นอกจากนี้การฝึกให้คิดแก้ปัญหาประเภทปัญหาเชาวน์ก็จะช่วยให้สมองได้คิดนอกกรอบได้ด้วย

การสร้างงานอาชีพบนฐานความคิดสร้างสรรค์

            การสร้างงานเกิดมาจากความคิดสร้างสรรค์ถ้าจะสามารถนำมาเป็นอาชีพได้ ต้องมีสนใจที่จะบริโภตผลผลิตของงานนั้น ๆ ดังขะเห็นได้จากความต้องการของมนุษย์ที่เป็นทั้งความต้องการที่เป็นความจำเป็นและความอยากได้ สามารถตอบสนองความต้องการทางร่างกายและจิตใจ ที่เป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดหรือเสริมสร้างความสุขสบายให้เพิ่มมากขึ้น

งานที่ถูกสร้างขึ้นมาจากความคิดสร้างสรรค์ได้แก่งานในอาชีพที่ต้องมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา เช่น งานเขียนนวนิยาย  งานสร้างโปรแกรมเพื่อการใช้ประโยชน์ในงาน งานโฆษณา งานออกแบบต่าง ๆ การวาดภาพ ศิลป์ หรือการเขียนการ์ตูนแล้วกักแปลงมาเป็นสินค้า เช่น หมีพูมิกกี้เมาส์ บาบี้ และเมื่อไม่นานมานี้ก็มีการสร้างตุ๊กตาเพลิน เพื่อเกาะกระแสของนางเพลิน ผู้สมัครรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคู่กับนายแมคเครน เป็นต้น สินค้าโอท๊อป (OTOP) ถือได้ว่าเป็นงานสร้างสรรค์ที่ทำเงินรายได้สู่กลุ่มและชุมชนได้เป็นอย่างดี ด้วยการมองภาพธุรกิจต่อยอดหรือสร้างสรรค์ผลงานจากวัสดุท้องถิ่นให้มีความโดดเด่นและใช้ประโยชน์ได้ เป็นต้น

            การสร้างงานอาจเป็นเรื่องยากที่จะคิดถ้าไม่มีปัจจัยต่าง ๆ มาประกอบกับความคิด เช่น ความรู้และความสามารถพื้นฐานในงานที่ต้องการจะสร้าง      แม้แต่การคิดค้นระบอบการปกครองประเภทต่าง ๆ ก็เป็นความคิดสร้างสรรค์ของบุคคลในชนชั้นนักปกครองที่จะสร้างความสงบสุขและการอยู่ร่วมกันของคนหมู่มาก ในด้านธุรกิจการผลิตเงินตราสกุลต่าง ๆ เพื่อการแลกเปลี่ยนสินค้าก็เป็นความคิดสร้างสรรค์ที่มีการคิดต่อยอดในรายละเอียดของการนำไปผลิตและการนำไปใช้ต่อเนื่อง

ตัวอย่างความคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาคนหนึ่ง ในขณะนั่งพิจารณาคล็ปหนีบ กระดาษสีแดงเล่น พลันก็ได้ความคิดอย่างหนึ่งจึงทำการส่งข้อความไปลงในเวปไซด์ โดยมีเงื่อนไขของการแลกเปลี่ยน  (Trade) พบว่า มีคนเข้ามาเล่นเกมส์นี้ด้วยโดยขอแลกคล็ปหนีบ กระดาษสีแดง กับ ลูกบิดประตูบ้าน จากนั้นก็มีการแลกเปลี่ยนต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ โดยแลกกับสินค้าที่มีผู้เสนอมาให้ ในช่วงหนึ่งของการเปลี่ยนแลกนี้ ซึ่งพบ สามารถแลกเปลี่ยนได้เป็นการให้อัดเสียงและทำแผ่นเสียง 1 อัลบั้ม และในที่สุดการแลกมายุติที่การได้บ้าน 1 หลัง โดยชุมชนพลเมืองของท้องถิ่นในรัฐหนึ่งรวมตัวกันมอบให้แก่เขาโดยมีข้อแม้ว่า บ้านนี้ต้องใช้ชื่อว่า บ้านคลิ๊ปแดง (Red Clip House) และให้สามารถเปลี่ยนชื่อเมืองเป็นเมืองคลิ๊ปแดง (Red Clip Town)  ชาวเมืองนี้น่าที่จะมีความคิดนอกกรอบเกิดขึ้นจึงลงมือแลกเปลี่ยนสิ่งของชิ้นนั้น และก็ได้รู้ว่าเป็นความคิดที่ต้องการทำให้เมืองของตนเป็นเมืองท่องเที่ยวด้วยการสร้างตำนสนของการได้มาของชื่อเมืองนั่นเอง

ความคิดสร้างสรรค์จำเป็นต้องมีการฝึกฝนสมองเพื่อให้เกิดความเคยชินที่จะคิดอยู่เสมอ จากการศึกษาโครงสร้างของสมองพบว่า สมองซีกขวาและซีกซ้ายของมนุษย์มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิต สร้างให้มนุษยืคิดแบบจินตนาการแบบสร้างสรรค์และในขณะเดียวกันก็มีเหตุมีผลด้วย ทำให้เกิดความสมดุลทางความคิด และเพราะความคิดที่สมดุลทำให้มีความสุขที่ได้ผลงานจากความคิดและเป็นสิ่งที่สามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ได้ ทั้งนี้ความคิดจินตนาการแต่เพียงอย่างเดียวอาจทำให้ความคิดล่องลอยไปอย่างไร้จุดมุ่งหมายไม่ทำให้กลายเป็นความคิดที่สร้างสรรค์ได้ การศึกษาความต้องการของมนุษย์ เป็นข้อมูลหนึ่งที่จะนำมาใช้ในการสร้างงาน แต่การที่จะทำให้ธุรกิจเกิดขึ้นได้ต้องมีปัจจัยทางด้านความคิดสร้างสรรค์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของสมองมนุษย์ ที่จะสร้างและประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความสุขสบายทั้งทางร่างกายและจิตให้แก่มนุษย์

 ปัจจัยแวดล้อมกับความคิดสร้างสรรค์ในงาน

            การเกิดจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์อาจมาจากการที่บุคคลอยู่ในสถานการณ์ที่บีบบังคับให้ต้องคิดแก้ปัญหา หรือทำให้สบชองทางของโอกาสที่สร้างงานขึ้นมาได้ เช่น

            1. วิกฤติการณ์ ช่วยสร้างงาน

รูปแบบของการสร้างงานอาจมาจากความคิดสร้างสรรค์ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เช่นการสร้างงานเพื่อทำให้เกิดธุรกิจในครัวเรื่อนหลายโดยใช้แรงงานภายในครอบครัวเป็นหลัก  ใช้เงินทุนน้อย เนื่องจากใช้วัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น และไม่ต้องใช้เครื่องมือเครื่องจักรมากนัก และใช้ความรู้เดิมของครอบครัวหรือภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามยังมีตัวอย่างของความคิดที่ทำให้บุคคลสามารถสร้างรายได้ให้กับตนเอง ดังเช่นตัวอย่างรูปแบบธุรกิจหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นงานบริการบุคคลที่ทำงานในเมือง เช่น  ธุรกิจเลขานุการออนไลน์ที่ทำหน้าที่เลขานุการทุกชนิด แม้แต่การปลุกจากที่นอนเพื่อบอกภารกิจประจำวันได้ด้วยแทนการใช้เครื่องมืออัเล็กโทรนิคเพื่อเตือนความจำ  ธุรกิจซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ตที่สะดวกสบายในเวปไซด์อีเบย์ เวปไซด์อเมซอน เป็นต้น 

2. สถาพสิ่งแวดล้อมช่วยสร้างงาน

สำหรับการสร้างงานนั้น การมองภาพรวมในสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ปัจจุบัน ผนวกกับจินตนาการนอกกรอบความคิดเดิม ด้วยการพิจารณาสภาพท้องถิ่นและชุมชน วัสดุเหลือใช้ในอาชีพ หนึ่ง ๆ ก็อาจนำมาพิจารณาสร้างผลผลิตได้ เช่น ผักตบชวา ขี้เลื่อย แกลบ กะลามะพร้าว เป็นต้น  สิ่งเหล่านี้ได้อาจนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้ ดังที่ปรากฎในปัจจุบัน หรือการที่ผลไม้ออกมาให้ผลผลิตจนล้น ขายออกไม่ทันกาล ควรจัดการทำอย่างไร เป็นต้น ปัจจุบันรัฐให้การสนับสนุนการดำเนินธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)  ที่ก่อให้เกิดรายได้และเกิดการจ้างงานในชุมชนโดยเรียชื่อว่า โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP)

ตัวอย่างของธุรกิจที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ ที่เป็นความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นจากชีวิตประจำวัน ของเด็กชายคนหนึ่งก็เป็นตัวอย่างที่เกิดจากการสังเกตพฤติกรรมของตนเอง เนื่องจากเป็นคนชอบดื่มเครื่องดื่มใส่น้ำแข็ง และจะรู้สึกรำคาญที่น้ำแข็งมักจะเข้าปากเมื่อดื่มจากแก้ว จึงเกิดความคิดที่จะทำแก้วน้ำที่สามารถป้องกันไม่ให้น้ำแข็งเข้าปากได้ ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกว่าได้ดื่มน้ำจากแก้วน้ำปกติ เช่นเดียวกันกับที่มีผู้ผลิตแก้ว 2 ชั้นโดยใส่น้ำไว้ในของชั้นนอกที่อยู่รอบแก้วน้ำ ก่อนการใช้ให้นำแก้วน้ำไปแช่แข็งเพื่อให้เป็นน้ำแข็งอยู่รอบแก้วชั้นนอก เมื่อนำมาใช้ใส่เครื่องดื่มก็จะทำให้เครื่องดื่มเย็นได้โดยที่รสชาติไม่เจือจาง เป็นต้น ความคิดเหล่านี้เกิดขึ้นจากความช่างคิดนั่นเอง ในช่วงที่พระสันตประปาจอห์น ปอล สิ้นพระชนม์ ต่างก็มีการคาดเดาว่าพระคาร์ดินัลท่านใดจะได้ขึ้นเป็นพระสันตปะปาแทน ช่วงนั้นจึงมีนักธุรกิจเข้าไปจดทะเบียนซื้อชื่อเวปไซด์เพื่อเอาไว้ขายให้แก่สำนักวาติกันในภายหลัง เพื่อทำกำไร ถ้าพระรูปนั้นได้ขึ้นเป็นพระสันตะประปา เป็นต้น

3. กระแสนิยม ช่วยสร้างงาน

ความคิดสร้างสรรค์ที่ใช้กระแสความนิยมผสมผสานกับความแปลกใหม่และประโยชน์ในการนำไปใช้ก็เป็นอีกวิธีการคิดหนึ่งที่ทำให้เกิดสินค้าที่โดดเด่นซึ่งเป็นการสร้างอาชีพใหม่ได้ เช่น การทำไม้ถือที่มีไฟวูบวาบเพื่อเอาไว้เชียร์นักร้องในงานคอนเสิร์ต หรือการทำสินค้าที่เป็นมือ เรียกว่า มือตบ เพื่อใช้ในการตบมือแทนการตบมือจริงที่น่าเบื่อและเจ็บมือด้วย โดยใช้กระแสการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นฐานในการคิด และยังเป็นการแสดงความเป็นคนในกลุ่มได้อีกด้วย เป็นต้น 

สรุป

การสร้างงานเกิดจากความต้องการของมนุษย์ในการที่ช่วยให้การดำเนินชีวิตมีความสุขและมีความหมายมากยิ่งขึ้น มนุษย์มีสมองไว้สำหรับคิดในหลายรูปแบบ แต่ความคิดสร้างสรรค์เป็นรูปแบบความคิดหนึ่งที่ทำให้มีการพัฒนาในด้านธุรกิจและอาชีพเกิดขึ้น ความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่อยู่ในสมองที่ติดตัวมาแต่กำเนิด แต่เป็นสิ่งที่ต้องการฝึกฝน และการฝึกหัดในการคิด ให้ส่วนของสมองมีประสบการณ์ในการคิด วิเคราะห์และสร้างสรรค์จากการมองภาพรวมและรายละเอียด ความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สมองมนุษย์สามารถสร้างสิ่งต่าง ๆ จากความใฝ่ฝันและจินตนาการให้เป็นความจริงได้

 

© Copyright 2005. All rights reserved. Contact: supattapin@yahoo.com